ประมวลรายวิชา (Course syllabus) 1. รหัสรายวิชา 405313 2. จำนวนหน่วยกิต (Course Credit) 3(2-3) 3. ชื่อวิชา (Course Title) พยาธิวิทยาทั่วไป (General Pathology ) 4. คณะ/ภาควิชาที่รับผิดชอบ ภาควิชาพยาธิวิทยาและนิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร 5. ภาคการศึกษา ภาคการศึกษาต้น (1) 6. ปีการศึกษา 2551 7. รายชื่อผู้สอน ผศ. พญ.จุลินทร สำราญ (ผู้รับผิดชอบรายวิชา) รศ.นพ.สุภรณ์ พงศะบุตร นพ. ศักดิ์ชัย จิตภักดี นพ. กิติศักดิ์ วาสนาวิจิตร์ นพ. พีระยุทธ สิทธิไชยกุล พญ. ทิวาพร เทศสวัสดิ์วงศ์ พญ. ละออ ชมพักตร์ พญ. รติรัตน์ สามล นพ. ดร. ณตพล ศุภณัฐเศรษฐกุล พญ. จันทิมา แทนบุญ (ผู้ประสานงานรายวิชา) 8. เงื่อนไขรายวิชา ไม่มี 9. สถานภาพของวิชา วิชาบังคับ 10. บรรจุในหลักสูตร ทันตแพทยศาสตรบัณฑิต ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2547 11. วิชาระดับ ปริญญาตรี 12. จำนวนชั่วโมงสอน 5 ชั่วโมง /สัปดาห์ ภาคบรรยาย 2 ชั่วโมง /สัปดาห์ ภาคปฏิบัติการ 3 ชั่วโมง /สัปดาห์ 13. เนื้อหารายวิชา (Course Description) ตามที่ปรากฏในหลักสูตร ศึกษาสาเหตุ พยาธิกำเนิด พยาธิสภาพของเนื้อเยื่อที่เห็นด้วยตาเปล่า และด้วยกล้องจุลทรรศน์ การเปลี่ยนแปลงทางพยาธิสรีรวิทยาภายหลังที่เนื้อเยื่อได้รับบาดเจ็บหรือเกิดโรคต่างๆ การอักเสบ การหายของบาดแผลและเนื้อเยื่อ การติดเชื้อ ความผิดปกติของระบบไหลเวียนและเกลือแร่ โรคเนื้องอก โรคภูมิแพ้ โรคอันเนื่องจากสิ่งแวดล้อม ความผิดปกติของการได้รับสารอาหารและวิตามิน Macroscopic and microscopic study concerning the etiology, pathogenesis, pathophysiologic changes of injuried cells and tissues, inflammatory and healing processes, infection, hemodynamic disorders, fluid and electrolyte disorders, neoplasia, immunopathology, environmental pathology, and nutritional disorders. 14. ประมวลการเรียนรายวิชา (Course Outline) 14.1 วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม : เมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอน นิสิตสามารถ 14.1.1 อธิบาย ความหมายขอบเขต ความสำคัญ หลักการและวิธีการศึกษาวิชาพยาธิวิทยาได้* 14.1.2 อธิบาย สาเหตุและกลไกการเกิดโรค การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างและหน้าที่ การดำเนินโรค อันเป็นผลมาจาก การบาดเจ็บของเซลล์ การอักเสบ การซ่อมแซมและการหาย ความผิดปกติจากพันธุกรรมและสภาพแวดล้อม สภาวะสารอาหารเกินหรือขาด การติดเชื้อ ความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน ความผิดปกติจากของเหลวและระบบไหลเวียน การเจริญที่ผิดปกติและเนื้องอก * 14.1.3 เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างที่ปกติและที่มีพยาธิสภาพได้ทั้งในระดับตาเปล่า และ กล้องจุลทรรศน์ * 14.1.4 นำความรู้มาประยุกต์ในการวินิจฉัยโรคหรือพยาธิสภาพที่เกิดขึ้นได้ทั้งในระดับตาเปล่า และ กล้องจุลทรรศน์ * 14.1.5 ประยุกต์ความรู้พื้นฐาน กับ อาการและลักษณะทางคลินิกในโรคที่พบบ่อย * 14.1.6 ศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองจากสื่อการสอนต่าง ๆ เช่น Video, CD-ROM, CAI, ตำรา และ WEBSITE *** 14.1.7 ทำงานเป็นกลุ่มในการเรียนรู้ และใช้ภาษาในการสื่อสารอย่างเหมาะสม *** 14.1.8 สร้างเจตคติที่ดี มีความรับผิดชอบ และ ปฏิบัติตัวที่เหมาะสมต่อวิชาชีพ ** 14.2 เนื้อหารายวิชา/หัวข้อการเรียน ภาคบรรยาย ชั่วโมง · Introduction to pathology 2 · Cellular adaptation, Cell injury and Cell death 4 · Inflammation I; Acute inflammation, and Systemic effects 2 · Inflammation II; Chronic inflammation, Tissue renewal and repair 2 · Hemodynamic disorder, thromboembolic disease and Shock 2 · Genetic disease and Molecular diagnosis 2 · Diseases of Immunity 3 · Growth and Neoplasia 4 · Infectious disease 7 · Nutritional Pathology 2 · Environmental Pathology 2 32
ภาคปฏิบัติ ชั่วโมง · Introduction to Lab pathology 3 · Gross and Microscopic laboratory (5 topics) 15 · Small group discussion (5 topics) 15 · Review Laboratory (2 times) 6 39 14.3 วิธีการจัดการเรียนการสอน 14.3.1 การบรรยาย แบบ Conventional and Interactive 14.3.2 การเรียนปฏิบัติการ Gross and Microscopic studies: มุ่งหวังให้นิสิตเรียนรู้และมีประสบการณ์จริงเกี่ยวกับพยาธิสภาพของผู้ป่วยจาก Gross specimens และ Histopathological slides ตามที่กำหนดให้เรียน 5 เรื่อง คือ 1.Cellular pathology 2. Inflammation 3. Hemodynamic disorders 4. Infection 5. Neoplasia 14.3.3 กิจกรรมอภิปรายกลุ่มย่อย (Small Group Discussion) : เป็นกิจกรรมที่นิสิตในแต่ละกลุ่ม (1 กลุ่มใหญ่มีสมาชิก 12 คน) ได้มีโอกาสนำความรู้ที่เรียนมาจากทั้งในห้องบรรยาย การเรียน Gross and Microscopic studies และ จากการเรียนรู้ด้วยตนเองมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ และ นำมาใช้ในการอภิปรายปัญหาที่มีการเชื่อมโยงทางคลินิก ฝึกการทำงานเป็นทีม และฝึกทักษะการสื่อสาร-การอภิปรายในกลุ่ม โดยกำหนดให้อภิปราย 5 เรื่อง คือ 1.Cellular pathology 2. Inflammation 3. Hemodynamic disorders 4. Infection 5. Neoplasia 14.4 สื่อการสอน 14.4.1 ประมวลรายวิชาและ Study guide วิชา พยาธิวิทยาทั่วไป 14.4.2 Study guide วิชา พยาธิวิทยาทั่วไป 14.4.3 แฟ้มรวม Virtual microscopic slides สำหรับการเรียน Histopathology 14.4.4 กล้องจุลทรรศน์ 2 ตา และ Class-Slides ตัวอย่างสำหรับ Demonstration และ Unknown Slides สำหรับ การประเมินผลเพื่อเก็บคะแนนในชั้นเรียน 14.4.5 ชิ้นเนื้อ(Gross specimens) ทางพยาธิวิทยาสำหรับ Demonstrationเพื่อการศึกษาพยาธิสภาพที่เห็นด้วยตาเปล่า 14.4.6 หัวข้อและโจทย์พร้อมภาพทางพยาธิวิทยาสำหรับการอภิปรายกลุ่มย่อย 14.4.7 Textbook (1 ชุด ต่อ นิสิตกลุ่มใหญ่) 14.4.8 บอร์ดวิชาการทางพยาธิวิทยา 14.4.9 WEBSITE และ สื่อการสอนอิเล็คโทรนิก วิชา พยาธิวิทยาทั่วไป 14.4.10 เอกสารประกอบการบรรยาย 14.4.11 Computer และ Projector, เครื่องฉายแผ่นทึบ และ สไลด์ 14.5 สถานที่เรียน · ห้องบรรยาย ; MD232 · ห้องเรียนปฏิบัติการ และ ห้องอภิปรายกลุ่มย่อย; ห้องปฏิบัติการพยาธิวิทยา ชั้น 6 อาคารสิรินธร (สถาบันวิจัยฯ) 14.6 การวัดผลการเรียน 14.6.1 กรอบการวัดและประเมินผล ดังตาราง
หมายเหตุ หลักการเลือกเครื่องมือวัดผล Cognitive domain: Multiple choice questions, Short assay, Matching - typed questions Psychomotor domain: OSCE, Short essay และ แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคลและรายกลุ่ม (จากการสังเกตขณะทำกิจกรรม Self - directed learning and Small group discussion) Affective domain: แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคลและรายกลุ่ม (จากการสังเกตขณะทำกิจกรรม Self - directed learning and Small group discussion) 14.6.2 การวัดผลและประเมินผล Summative assessment: ภาคบรรยาย 60% · MCQ (รายละเอียดตาม Table of specification) · Matching - typed questions ภาคปฏิบัติ 40 % · สอบ Gross and Slides (CRQ) 20 %· คะแนน Small group discussion (รายกลุ่ม) 20% (ครั้งละ 4%) Formative assessment: เป็นการติดตามความก้าวหน้าของนิสิต โดย ไม่นำคะแนนไปคิดในการตัดเกรด - Pre-test and Post-test - Quiz after laboratory session (Gross and Slide)
Table of specification for MCQ: General Pathology /2006
หมายเหตุ Exam 1 วันที่ 25 กรกฎาคม 2551 (Lecture and Lab) Exam 2 - วันที่ 27 สิงหาคม 2552 (Lecture) Exam 3 - วันที่ 26 กันยายน 2550 (Lecture and Lab) ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเวลา จะแจ้งให้ทราบในภายหลัง 14.6.3 เกณฑ์การวัดและประเมินผล ตัดเกรดแยกคณะ ผู้ที่สอบผ่าน หรือ ได้ Grade D ควรมีคะแนนดิบไม่ต่ำกว่า 50 คะแนน การตัดเกรดจะดำเนินการปรับคะแนนดิบจากการสอบย่อยทุกครั้งให้เป็นคะแนนมาตรฐาน (T score) และนำคะแนนมาตรฐานมารวมตามน้ำหนักคะแนนที่กำหนด และพิจารณาอิงกลุ่มร่วมกับอิงเกณฑ์
15. รายชื่อหนังสือที่อ่านประกอบ - Functional and Histology - Anatomy and Physiology - Dorland s Illustrated Medical Dictionary - Pathology Illustated 5th edition - Robbins Pathology Basis of Disease 7th edition - Pathology 2nd edition, Stevens - General and Systemic pathology, 3rd edition - Essential Pathology, Rubin - Andersons Pathology 9th, 10th. Edition - Concise Pathology by Chandrasoma. - Histopathology; A color Atlas and Textbook by Ivan Damjanov.
ตัวอย่างแบบประเมินพฤติกรรม การประเมินการเรียน Group discussion: รายกลุ่ม ครั้งที่ ..วันที่ ..หัวข้อเรื่อง .. กลุ่มที่ .. อาจารย์ผู้ประเมิน .. .. .
|